ใครมีอาการ Jet Lag บ้าง?


 การขึ้นเครื่องบินเดินทางไกลไปต่างแดนข้ามประเทศ ข้ามทวีป ข้ามโซนเวลา ทำให้ปรับตัวไม่ได้  มักสร้างอาการแบบหนึ่งให้เกิดขึ้นกับนักเดินทางเมื่อไปถึงจุดหมายแล้ว อาการที่ว่านั้นเรียกกันว่า เจ็ตแล็ก (Jet Lag)
Jet  Lag


เพราะฉะนั้น ผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสหรัฐอเมริกา จะเกิดอาการ jet lag ได้ง่าย เนื่องจากเกิดอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางข้ามเขตเวลา

Time Zone


เนื่องจากในประเทศสหรัฐอเมริกาเวลา 11.00น.ซึ่งตรงกับเวลาในประเทศไทยคือประมาณ 23.00น.ดังนั้นร่างกายยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน และนั่นคือสาเหตุของคำว่า jet lag


 

ตรวจสอบว่ามีอาการ jet lag
ความรู้สึกเหล่านี้ บางคนอาจมีมากกว่าหนึ่ง ตั้งแต่เป็นความรู้สึกเหนื่อยไม่รู้หาย เกิดอาการง่วงนอน อ่อนเพลีย รู้สึกหดหู่  อารมณ์เสียโดยไม่มีสาเหตุ กลางคืนนอนไม่หลับแต่กลางวันง่วงหงาว  ฉุนเฉียวง่าย สับสน และสูญเสียความจำ ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่เดินทางไกล

ก่อนการเดินทาง
ค่อยๆ ปรับเวลาของการรับประทานอาหาร เวลานอน และการพักผ่อน จนใกล้เคียงกับสถานที่ที่จะไป เพื่อว่าในวันที่เราต้องออกเดินทาง ร่างกายจะสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม ไม่ตึงเครียดหรือเกิดอาการผิดปกติเมื่อเริ่มต้นการเดินทาง
 




 ระหว่างการบิน
แต่งตัวสบายๆ ไม่รัดจนเกินไป และตั้งเวลาตามจุดหมายปลายทาง จากนั้นเริ่มต้นปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวันที่เคยทำ เช่น ถ้าตอนเช้า เรามักจะเดินออกกำลังกาย ให้นึกว่ากำลังทำอย่างนั้น หรือออกกำลังกายบางชนิดในที่นั่งแทน รับประทานอาหารเบาๆ และหากเป็นไปได้ รับประทานอาหารที่เหมาะสมตามเวลาของจุดหมายปลายทาง พยายามหลีกเลี่ยงกาเฟอีน และพวกแอลกอฮอล์ต่างๆ เพราะจะมีผลในการขจัดน้ำออกจากร่างกาย รวมทั้งหลีกเลี่ยงลูกอม เพราะจะทำให้เราไม่ได้พักผ่อน นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำเปล่ามากๆ เพื่อลดความกดดันของอากาศ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย และปิดท้ายด้วยการนอน และตื่นขึ้นตามตารางเวลาของจุดหมายปลายทาง
 
 เมื่อถึงที่หมาย

  ให้นอนตามเวลาของท้องถิ่นนั้นๆ รวมทั้งทำกิจกรรมต่างๆ ตามเวลาที่กำหนด หากว่าเวลาที่เรามากับเวลาที่เราอยู่ห่างกันมาก และจะต้องนอนในช่วงระหว่างเวลากลางวัน ให้นอนน้อยกว่า 2 ชั่วโมง และให้ออกนอกบ้านในตอนที่มีแสงสว่าง หมายถึง เวลาเช้า เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้เร็วขึ้น และจบลงด้วยการดื่มนมสักแก้ว หรือรับประทานไอศกรีมก่อนเข้านอน จะช่วยให้หลับสนิท แต่หากมีปัญหามาก อาจต้องพบแพทย์เพื่อพึ่งยานอนหลับ ถ้ายังไม่สามารถปรับตัวได้


 
เป็นอย่างไรบ้างคะเรื่องง่าย ๆ เพียงเท่านี้ก็อาจช่วยให้อาการเจ็ตแล็กบรรเทาไปได้ในระดับหนึ่ง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...