ทำบัตรห้องสมุดในอเมริกา

Public Library


ในอเมริกาจะมีห้องสมุดของรัฐบาล (Public library) หรือ ห้องสมุดของเมืองนั้นๆ เพื่อบริการคนในชุมชน มันมีความสำคัญมากค่ะ สำหรับทุกคนทุกระดับชั้น เขาจะมีบริการให้กับทุกชั้นทุกเพศทุกวัยจริงๆ เช่น เขาจะมีกิจกรรมร้องเพลง และ อ่านนิทานให้เด็กๆฟังในช่วงเวลาที่เขาจัดไว้ ดังนั้นพวกบรรดาแม่ๆ และพี่เลี้ยงเด็ก ทั้งหลายก็จะแห่กันมาที่ห้องสมุดพร้อมเจ้าตัวเล็ก น่ารัก น่าชัง (เวลาร้องแหกปากลั่นห้องสมุดไปหมด)
 
ขั้นตอนการทำบัตรห้องสมุด

1 เตรียมเอกสารที่ระบุว่าเราอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นั้นๆ เช่น ใบขับขี่ หรือ ID และ ถ้าเรามีแต่ พาสปอร์ต หรือ I-20 ทางเจ้าหน้าห้องสมุดจะขอดูเอกสารแสดงที่อยู่ของเรา (proof of address) ซึ่งอาจจะใช้เอกสารจากธนาคารก็ได้



2 กรอกแบบฟอร์มขอทำบัตรห้องสมุด โดยต้องกรอกชื่อ, ที่อยู่ (กรอกที่อยู่ให้ตรงตามเอกสารที่นำมาแสดง) ,อีเมล์ ,เบอร์โทรศัพท์



3 เมื่อกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว ให้นำไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุด พร้อมแสดงเอกสารที่เตรียมมา



4 หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะแนะนำการใช้บริการของห้องสมุดอย่างคร่าวๆ และจะให้เราเลือกบัตรห้องสมุด ซึ่งมีหลายขนาด แล้วแต่ความชอบ เมื่อได้บัตรแล้วก็สามารถยืมหนังสือได้เลย
 


การยืมหนังสือ( check out )

 

Self -Check out

เราต้องทำเองค่ะ (แต่ถ้าติดขัดก็ถามเจ้าหน้าที่ได้) โดยจะมีเครื่องสแกนบาร์โคด เราก็ต้องสแกนหนังสือทุกเล่มเอง เมื่อเสร็จแล้ว เราก็กดปุ่ม DONE หลังจากนั้นเราจะได้ใบเสร็จ ซึ่งจะมีรายละเอียดของวันที่ทำการยืม และวันที่จะต้องคืน กำกับไว้



การคืนหนังสือ (Return)


Self-Return



เมื่อถึงกำหนดคืนหนังสือ เราสามารถนำมาหย่อนตู้ คืนหนังสือ (Book Return) ได้เอง โดยที่ไม่ต้องส่งให้ถึงมือเจ้าที่ห้องสมุดให้ตรวจเช็ค



ห้องสมุดที่นี่จะมีหลายแห่ง หลายสาขา ซึ่งให้ความสะดวกกับพลเมืองอเมริกันเป็นอย่างมาก อีกอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากที่คุณมีบัตรห้องสมุดแล้ว (ไม่ยากเย็นอะไรเลยใช่มั้ยค่ะ แถมฟรีด้วย เราคนไทยชอบของฟรีอยู่แล้ว) ก็สามารถยืมหนังสือ ( check out ) มาอ่านบ้านได้ ไม่ใช่แค่เล่มสองเล่มนะ 10-20 เล่มเขาก็ไม่ว่าถ้าคุณมีปัญญาขนกลับไป ส่วนใหญ่ก็จะมีกำหนดเวลาที่ต้องคืนภายใน ๓ อาทิตย์ แค่ถ้าคุณอ่านช้ามาก ( โธ่! อ่านภาษาไทยยังช้าเลย นี้ดันเป็นภาษาอังกฤษอีกอ่านไปต้องค่อยเปิด dictionary ไปเมื่อยมือไปหมด)หรือ เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้ยังอ่านไม่จบใน ๓ อาทิตย์ ก็ยังยืมต่อ ( renew ) ไปได้อีก ๓ อาทิตย์ เอาให้ตาแฉะกันไปข้างเลย การบริการนี้ก็ฟรีอีกนะ และหนังสือก็มีทุกรูปแบบไม่ว่า นิยาย( ทั้งเน่าและไม่เน่า )หรือ สาระความรู้ในทุกหมวดหมู่ มีหนังหลากหลายในรูปแบบ DVD แถมบางครั้งคุณก็ยังใช้ Internet หรือ computer ได้ด้วย ก็ฟรีอีก

ถ้าจะว่าทุกอย่างฟรีก็คงจะไม่ถูกต้องไปเสียหมด เขามีเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องสแกน และเครื่องปริ้นท์ ไว้บริการในราคาแสนถูกกว่าร้านทั่วไป ประมาณ 10-15 เซนต์ต่อ 1 แผ่น แต่เราต้องทำเองค่ะ แต่ถ้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ก็สามารถถามเจ้าหน้าที่ห้องสมุดได้ค่ะ และเขาจะมีกำหนดเวลาในการคืนหนังสือ ภายใน ๓ อาทิตย์ ถ้าล่าช้า (overdue) เขาอาจจะปรับคุณได้ ก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่อย่างที่บอกของมันฟรีๆแต่กลับต้องมาเสียเงินค่าปรับนี้มันเสียฟอร์มหมด และสำหรับคนที่ถูกปรับบ่อยๆเขามีสิทธิพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ทุกปีจะมีอาทิตย์หนึ่งที่เขาจะทำการอภัยโทษพวก overdue อย่างเราๆ ที่ตัองทำคือให้นำบัตรมายื่นให้เขาเพื่อ เคลียร์ record ของเราเสียใหม่ โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับใดๆทั้งสิ้น



สำหรับคนที่รักการอ่านอย่างเราLibrary ถือเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่จะค้นคว้าหาความรู้อย่างไม่จำกัดขอบเขต ขอเพียงคุณสามารถอ่านออก เขียนได้ (ได้นิดหน่อยไม่เป็นไร) คุณก็สามารถหาความรู้ทุกอย่างได้ด้วยตัวของคุณเองแล้วค่ะ













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...